รีวิวการปรับปรุงบ้านขนาด 2 ชั้น ให้กลับมาสดใหม่ น่าอยู่อีกครั้ง

Anuwat Anuwat
Mahatthai Resident, A2 StudiO A2 StudiO Interior garden
Loading admin actions …

แน่นอนว่าอายุการใช้งานของบ้านและที่อยู่อาศัย ไม่ว่าจะเป็น โครงสร้างการตกแต่งภายใน หรือมุมส่วนนอก ทั้งหมดล้วนแล้วแต่มีอายุการใช้งาน มีการสึกหรอและเสื่อมโทรม ซึ่งนอกจากการใช้สอยที่ระมัดระวังและทำความสะอาดบ่อยครั้ง เราต้องหมั่นตรวจสอบร่องรอยการชำรุด พร้อมๆไปกับปรับปรุงหรือรีโนเวทบ้านใหม่ในมุมต่างๆอยู่เสมอ เพื่อทำให้บ้านนั้นดูน่าอยู่อาศัยและปลอดภัย

หลากหลายคนอาจสงสัยว่ารีโนเวทแล้วได้อะไร จริงๆแล้วการปรับโฉมบ้านนั้นไม่ได้มีดีแต่ความปลอดภัย ยังทำให้ภาพรวมส่วนต่างๆของบ้านดูทันสมัย เพราะวัสดุตกแต่งในปัจจุบันมีให้เลือกอย่างหลากหลาย  ไม่เพียงเท่านั้นการรีโนเวทยังทำให้บ้านมีมูลค่าสูงขึ้น สามารถใช้สอยได้อย่างสะดวกสบาย และที่สำคัญราคาไม่สูงเมื่อเทียบกับการมองหาบ้านใหม่สักหลังในยุคนี้

อย่างไรก็ดีการรีโนเวทบ้านและที่อยู่อาศัยในปัจจุบันมีผู้เชี่ยวชาญพร้อมให้บริการอย่างทั่วถึง ยกตัวอย่างเช่น นักออกแบบ สถาปนิก ภูมิสถาปนิกพร้อมกำหนดแปลนบ้านใหม่ หรือแม้จะเป็นบริษัทรับสร้างบ้านที่พร้อมเติมเต็มการปรับโฉมให้ตรงความต้องการ ทั้งหมดนี้สามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมหรือดูภาพโครงการตัวอย่างได้ที่ Homify

และในไอเดียบุคนี้ขอนำเสนอตัวอย่างก่อน-หลัง การปรับโฉมบ้านขนาดสองชั้น จากสถาปนิกตกแต่งภายในชาวไทย เพื่อเป็นต้นแบบและแรงบันดาลใจที่ดีให้กับผู้ที่สนใจรีโนเวทหรือผู้ที่กำลังมองหาโอกาสในการปรับโฉมบ้านได้นำไปปรับใช้อย่างสร้างสรรค์

Before & After มุมบันได

ผลงานการปรับโฉมภายในหลังนี้เป็นผลงานของ A2-STUDIO หรือสถาปนิกใน กทม.โดยมุมแรกที่เริ่มการรีโนเวทนั้นคือบริเวณบันได ซึ่งแต่เดิมเป็นงานไม้ แต่เมื่อปรับโฉมใหม่นั้นได้นำเอางานปูนมาปรับใช้ในการวางโครงสร้างใหม่ ปูพื้นด้วยกระเบื้องเซรามิกและทำราวจับที่ดูทันสมัยมากขึ้นด้วยโครงเหล็ก ตัวบันไดหลังใหม่มุ่งเน้นการเลือกใช้สีขาวมาชูความโดดเด่น ซึ่งกลมกลืนไปกับงานปรับปรุงส่วนพื้น ผนัง เพดาน ในมุมห้องนั่งเล่นและโถงทางเดินบริเวณทางเข้าที่อยู่ตรงหน้าได้อย่างกลมกลืน อย่างไรก็ดีได้มีการติดตั้งระบบไฟติดผนัง เพิ่มเพติมเพื่อเพิ่มความส่องสว่าง ด้านเฟอร์นิเจอร์ที่นำมาใช้ในการจัดวางเพื่อนั่งเล่น เป็นโซฟาขนาดสมส่วน ด้านพื้นมีการปูพรมเช็ดเท้าและแสมด้วยสีเขียวบางจุด อาทิ ประตูเพื่อเพิ่มกลิ่นอายความเป็นธรรมชาติ

สถาปนิกภายในรายนี้เผยต่ออีกว่า การปรับโฉมครั้งนี้ มุ่งเน้นอยู่ 3 ปัจจัย คือ

1. งานปรับปรุงในส่วนของโครงสร้างหลังคา ประตู หน้าต่าง งานระบบไฟฟ้า และสุขาภิบาล

2. งานห้องน้ำ การติดตั้งสุขภัณฑ์ และเครื่องเรือนติดตาย

3. งานเครื่องเรือนลอยตัว

โดยที่กล่าวมาข้างต้นเห็นภาพได้อย่างเด่นชัด เพราะมีทั้งงานโครงสร้างอย่าง บันได พื้น เพดาน ผนัง รวมทั้งสุขาภิบาลอย่างหลอดไฟ และเฟอร์นิเจอร์แบบลอยตัวที่เคลื่อนย้ายได้ง่ายอย่างโซฟา

Before & After เฟอร์นิเจอร์แบบลอยตัว

ใกล้ๆกันกับมุมบันไดหรือพื้นที่ว่างบริเวณผนังจากโถงทางเดิน สถาปนิกได้ออกแบบและนำเอาเฟอร์นิเจอร์แบบลอยตัวมาติดตั้ง อาทิ ชั้นวางของโทนสีขาวที่มีลักษณะแบบแผ่นเรียบเพื่อติดไปกับผนัง  ไม่เพียงเท่านั้นด้านล่างชั้นวางของแบบลอยตัวยังนำเอาชั้นวางของในแบบชุดตู้ที่เปิด-ปิด ในแบบลิ้นชักมาจัดวาง ซึ่งเลือกใช้โทนสีขาวเหมือนกัน เพื่อจัดทำเป็นมุมอ่านหนังสือ ทำงานหรือนั่งพักผ่อนอย่างเป็นส่วนตัวได้อย่างสร้างสรรค์ เพราะสามารถจัดการพื้นที่ว่างให้เกิดความคุม้ค่านั้นเอง

Before & After

บ้านหลังนี้มีจำนวน 2 ชั้น ในขนาด 170 ตร.ม โดยบริเวณทางขึ้นของบันไดได้มีการต่อเติมบานหน้าต่างเพิ่มเติม ซึ่งแต่เดิมมีเพียง 1 บานในรูปทรงสี่เหลี่ยมจัตุรัส แต่การต่อเติมใหม่ครั้งนี้ได้ทุบผนังและจัดใส่บานหน้าต่างหลังใหม่ที่มีความยาวมากขึ้นประมาณ 1.5 เมตร ตกแต่งบานด้วยบานกระจกใส ยืดวงกบด้วยโครงเหล็ก สามารถเปิดรับแสงสว่างได้อย่างเต็มที่ ที่สำคัญทำให้มุมบันไดดูส่องสว่างและใช้สอยได้อย่างปลอดภัย เหนือสิ่งอื่นใดคือการเพิ่มความกว้างและทำให้ผนังบ้านดูสวยงาม รู้สึกใกล้ชิดกับธรรมชาติ

Before & After วัสดุที่ตกแต่งที่สวยงาม

ด้วยโจทย์ที่ได้รับในการตกแต่งภายในใหม่นั้นมีเพียง  1 เดือน สถาปนิกจึงได้เลือกใช้วัสดุที่หาได้ง่าย มีความสวยงาม ปลูกสร้างได้ไว ที่สำคัญคงทนแข็งแรง ยกตัวอย่างเช่น ไม้พลาสวูคทำสีพ่นขาว กระจก กระเบื้อง โดยทั้งหมดส่วนใหญ่เป็นสีขาวเพราะนอกจากสวยงาม ยังสร้างความรู้สึกที่สะอาด สดใหม่และดูส่องสวางได้อย่างทั่วถึงเมื่อเปิดไฟหรือเปิดรับแสงสว่างจากภายนอก ไม่เพียงเท่านั้นนักออกแบบยังเลือกใช้เครื่องเรือนที่มีโทนสีใกล้เคียงหรือเสริมให้ดูโดดเด่น เช่น เก้าอี้โครงเหล็ก ชั้นวางและชุดตู้ชั้นเก็บของ เป็นต้น

Before & After มุมครัว

ด้านมุมครัวได้มีการปรับโฉมเช่นกัน โดยเริ่มจากการนำเอาเคาน์เตอร์ครัว ชุดตู้ชั้นเก็บของ มาติดตั้งในลักษณะบิวท์อินชิดกับผนังทั้งหมดในรูปทรงตัวแอล เพื่อเว้นพื้นที่ตรงกลางให้ว่างจนสามารถเสริมเป็นมุมรับประทานอาหารได้อย่างคล่องตัว สำหรับโทนสียังคงเลือกใช้โทนสีขาวมีการแสมสีเขียวอ่อนเพื่อสร้างความโดดเด่นและดูเป็นธรรมชาติ  โดยเฉพาะบริเวณบานเปิดหรือประตูบานเลื่อน สำหรับพื้นผนังปูด้วยคอนกรีตตกแต่งด้วยเซรามิก ทั้งนี้ภายในบริเวณเคาน์เตอร์ครัวได้มีการเสริมระบบสุขาภิบาล ทั้งประปาและไฟฟ้าเพื่อสร้างความคล่องตัวในการปรุงอาหาร ด้านเฟอร์นิเจอร์อย่างโต๊ะรับประทานอาหารเลือกใช้โต๊ะกระจก ตกแต่งด้วยเก้าอี้ ซึ่งผู้อยู่อาศัยสามารถใช้สอยได้อย่างสะดวกสบาย ที่สำคัญยังแสดงออกถึงการใช้สอยพื้นที่ที่มีจำกัดได้อย่างคุ้มค่า หนึ่งมุมครัวที่มีประโยชน์มากกว่าหนึ่งอย่างแท้จริง

Before & After ห้องนอน

จากพื้นที่ที่ดูมืดทืบและรกรุงรัง สถาปนิกรายนี้ได้ออกแบบพื้นที่ดังกล่าวให้เป็นมุมห้องนอนเพิ่มเติม ด้วยการจัดเก็บของที่ไม่ใช้ออกให้โล่ง นำเอาเฟอร์นิเจอร์จำพวกเตียงนอนและชุดเครื่องนอนมาจัดวาง พร้อมกันนี้รื้อระบบหน้าต่างใหม่ทั้งหมดและติดตั้งใหม่ให้เป็นแบบบานเลื่อนยังคงเลือกใช้กระจกใสเป็นบาน เสริมความสะดวกสบายด้วยมุ้งลวดและเพิ่มความเป็นส่วนตัวด้วยม่าน  ดีไซน์ผนังใหม่ด้วยการทาสี ที่สำคัญติดตั้งระบบไฟให้ดูส่องสวางเพียงเท่านี้ก็ได้มุมห้องนอนเพิ่มเติมให้กับบ้านเดี่ยวขนาดสองชั้นหลังนี้ได้อย่างลงตัว

Before & After ห้องนอนเดิมเพิ่มการจัดวาง

สำหรับห้องนอนเดิมที่เป็นเตียงเดียว กรปรับโฉมใหม่ครั้งนี้นอกจากตกแต่งพื้น ผนัง เพดานและโครงสร้างในโทนสีขาว ได้จัดวางเตียงเพิ่มอีก 1 หลัง เพื่อเพิ่มการใช้สอยให้เป็นเตียงคู่ สามารถนอนพักได้ 2 คน อย่างไรก็ดียังได้รื้อรูปแบบหน้าต่างเดิมให้เป็นแบบบานเลื่อนที่ทันสมัย ตกแต่งด้วยม่านแบบมูลี่ และเสริมความโมเดิร์นด้วยกรอบรูปหรือชิ้นงานศิลปะบริเวณหัวเตียง ด้านโทนสียังคงมุ่งเน้นความเป็นธรรมชาติ ซึ่งนอกจากสีขาว คือสีฟ้าอ่อนของชุดเครื่องนอน

Before & After ​มุมพังๆให้กลับมาปัง

จากพื้นที่แต่งตัวที่มีเพียงตู้เสื้อผ้า นักออกแบบได้จัดการพื้นที่ดังกล่าวให้กลายเป้นมุมอ่านหนังสืออีกหลัง ซึ่งตกแต่งในรูปแบบบิวท์อิน อาทิ การนำชั้นวางของแบบลอยตัวมาติดตั้ง หรือจะเป็นชุดโต๊ะ ชั้นวางของและเก้าอี้ ตลอดจนระบบไฟและเครื่องใช้ไฟฟ้าอย่างคอมพิวเตอร์ วางผังไว้แนวผนังดูกลมกลืนและไม่ขวางช่องทางเดิน ที่สำคัญยังดูสวยงามเพราะยังคงเลือกใช้โทนสีขาวมาเป็นแกนหลัก โดยผู้อยู่อาศัยสามารถพักผ่อนมุมดังกล่าวได้อย่างเพลิดเพลิน  

การรีโนเวทหรือตกแต่งภายในใหม่ในหลากหลายจุดทำให้ภาพรวมภายในบ้านดูน่าอยู่อาศัย สะดวกสบายและทันสมัยขึ้นมาถนัดตา หนึ่งแนวทางที่ทุกคนสามารถนำไปปรับใช้ได้อย่างเหมาะสม

สำหรับผู้ที่สนใจผลงานการออกแบบและตกแต่งของสถาปนิกรายนี้ สามารถคลิกได้ที่ A2-STUDIO ซึ่งภายในโปรไฟล์จะมีทั้งเบอร์ติดต่อ ผลงานโครงการ ซึ่งเป็นทางเลือกในการติดต่อสอบถามที่สะดวกสบาย

Need help with your home project?
Get in touch!

Highlights from our magazine